good relationships longevity

ความสัมพันธ์ที่ดีกุญแจการมีอายุยืนและสุขภาพดีระดับเซลล์

ความเหงาส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด! ความสัมพันธ์ที่ดีและการเข้าสังคมช่วยลดความเครียด ปกป้องเทโลเมียร์ และนำไปสู่การมีอายุยืนได้อย่างไร? 1 min


0

ในยุคที่เราใส่ใจสุขภาพกันอย่างเข้มข้น เราพูดถึง อาหารคลีน การออกกำลังกาย การทำ IF หรือแม้แต่วิตามินและอาหารเสริมราคาแพง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า “กุญแจ” ดอกสำคัญที่สุด ที่อาจนำไปสู่การมีอายุยืนและสุขภาพดี กลับซ่อนอยู่ในการกระทำที่เรียบง่าย อย่างการหัวเราะกับเพื่อนสนิท การกอดปลอบใจคนในครอบครัว หรือการมีใครสักคน ให้โทรไประบายความในใจ

ความเหงา ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด! มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกเศร้า ๆ แต่เป็นภัยเงียบที่กัดกินร่างกายเราลึกถึงระดับเซลล์ The HealthSpan พาไปดูว่าความสัมพันธ์ที่ดีและการเข้าสังคมช่วยลดความเครียด ปกป้อง “เทโลเมียร์” (ตัวชี้วัดความชราของเซลล์) และนำไปสู่การมีอายุยืนยาวได้อย่างไร

ผลกระทบต่อร่างกายและสมอง เมื่อความเหงาอันตรายกว่าที่คิด

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมโดยธรรมชาติ การถูกตัดขาดหรือรู้สึกโดดเดี่ยว จึงเปรียบเสมือนสัญญาณเตือนภัยสำหรับสมองและร่างกายของเรา งานวิจัยจำนวนมากชี้ชัดว่า ความเหงาเรื้อรัง (Chronic Loneliness) มีความอันตรายต่อสุขภาพ เทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน และร้ายแรงกว่าโรคอ้วนเสียอีก

เมื่อเรารู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว ร่างกายจะเข้าสู่โหมดเอาตัวรอด ซึ่งส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ดังนี้

  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้ป่วยง่ายและหายช้ากว่าปกติ
  • เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูงขึ้น และมีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายมากขึ้น
  • สมองเสื่อมถอย เพิ่มความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมอื่น ๆ
  • ปัญหาสุขภาพจิต เป็นบ่อเกิดสำคัญของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล

ความเหงาไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึก แต่คือสภาวะทางชีวภาพ ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายจริง ๆ และหนึ่งในตัวการสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง ก็คือฮอร์โมนความเครียด

เมื่อคอร์ติซอลสูงขึ้น จากการขาดการเชื่อมต่อกับผู้อื่น

คอร์ติซอล (Cortisol) คือฮอร์โมนความเครียด ที่ร่างกายหลั่งออกมา เพื่อตอบสนองต่อภาวะอันตราย (Fight-or-Flight Response) ซึ่งเป็นประโยชน์ในระยะสั้น แต่เมื่อเรารู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวเป็นเวลานาน ร่างกายจะหลั่งคอร์ติซอลออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นภาวะเครียดเรื้อรัง

คอร์ติซอลที่สูงตลอดเวลานี้เอง ที่เป็นตัวการร้าย เข้าไปทำลายระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation) ซึ่งเป็นต้นตอของสารพัดโรค ตั้งแต่เบาหวานไปจนถึงมะเร็ง นอกจากนี้ยังรบกวนการนอนหลับ ทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ลง และที่สำคัญที่สุดคือ กำลังเร่งกระบวนการชราในระดับที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ความสัมพันธ์ที่ดีปกป้อง “เทโลเมียร์” ได้อย่างไร

หากเซลล์คือหน่วยย่อยของชีวิต “เทโลเมียร์ (Telomere)” ก็เปรียบเสมือน “ปลอกพลาสติกหุ้มปลายเชือกรองเท้า” ของโครโมโซมในเซลล์ของเรา มันมีหน้าที่ปกป้องไม่ให้ DNA ของเราเสียหาย หรือรวนในตอนที่เซลล์แบ่งตัว

ทุกครั้งที่เซลล์แบ่งตัว เทโลเมียร์นี้จะหดสั้นลงเรื่อย ๆ จนเมื่อมันสั้นถึงขีดสุด เซลล์นั้นก็จะไม่สามารถแบ่งตัวได้อีกต่อไป และค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปในที่สุด นี่คือกระบวนการชราในระดับเซลล์ นักวิทยาศาสตร์จึงใช้ความยาวของเทโลเมียร์ เป็นหนึ่งในตัวชี้วัด อายุขัยทางชีวภาพ (Biological Age) ของเรา

ภาวะเครียดเรื้อรังและการอักเสบ ที่เกิดจากความเหงานั้น เป็นตัวเร่งชั้นดี ที่ทำให้เทโลเมียร์หดสั้นลงอย่างรวดเร็ว! แต่ความสัมพันธ์ที่ดีทำหน้าที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

เมื่อเรามีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ได้รับการสนับสนุนทางสังคม หรือรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม สมองจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขและความผูกพันอย่าง ออกซิโทซิน (Oxytocin) ออกมา ฮอร์โมนนี้เปรียบเสมือน “ยาถอนพิษ” ของคอร์ติซอล ช่วยลดความเครียด ลดการอักเสบ และสร้างสภาวะแวดล้อม ที่เอื้อต่อการซ่อมแซมตัวเองของร่างกาย พูดง่าย ๆ ก็คือ การมีเพื่อนดี ๆ สักคน คือการบำรุงรักษาเทโลเมียร์ชั้นยอด ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และส่งเสริมให้เรามีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

5 วิธีสร้างความสัมพันธ์และการเข้าสังคมสำหรับคนยุคใหม่

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ต้องอาศัยความตั้งใจและการลงมือทำ นี่คือ 5 วิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มได้ทันที

  • เน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ – เลิกกังวลเรื่องจำนวนเพื่อนในโซเชียลมีเดีย การมีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้เพียง 1-2 คนที่คุณสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง มีค่ามากกว่าเพื่อนผิวเผินนับร้อยคนเสียอีก
  • หาคนแบบเดียวกับคุณ – เข้าร่วมกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่คุณสนใจ เช่น คลาสโยคะ ชมรมวิ่ง กลุ่มอาสาสมัคร หรือเวิร์กช็อปต่าง ๆ การได้เจอคนที่มีความชอบคล้ายกัน เป็นจุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดในการสร้างมิตรภาพใหม่ ๆ
  • เป็นฝ่ายเริ่มต้น – อย่ารอให้คนอื่นเข้ามาทักทาย ลองเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนา ชวนเพื่อนร่วมงานไปทานข้าวกลางวัน หรือส่งข้อความหาเพื่อนเก่าที่คุณคิดถึง การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
  • ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี – หัวใจของความสัมพันธ์ที่ดี คือการทำให้คนอื่นรู้สึกว่า มีคนรับฟังและเข้าใจ วางโทรศัพท์ลง สบตาคู่สนทนา และตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาพูด ถามคำถามปลายเปิด เพื่อแสดงความใส่ใจ สิ่งนี้จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้
  • บำรุงรักษาสิ่งที่มีอยู่ – อย่ามองข้ามความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่แล้ว ทั้งกับครอบครัว ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนเก่า ลองหาเวลาโทรหาพ่อแม่ นัดเจอเพื่อนสมัยเรียน หรือทำกิจกรรมดี ๆ ร่วมกับคนในครอบครัวเป็นประจำ การเติมความใส่ใจให้กับความสัมพันธ์เดิม ก็สำคัญไม่แพ้การสร้างความสัมพันธ์ใหม่

การลงทุนเวลาและพลังงาน เพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดี อาจเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต เพราะไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มสุขภาพจิต แต่ยังเป็นยาวิเศษ ที่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ยืนยาวและเปี่ยมสุขอย่างแท้จริง

——————–

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • Holt-Lunstad, J., Smith, T. B., & Layton, J. B. (2010). Social relationships and mortality risk: a meta-analytic review. PLoS medicine, 7(7), e1000316.
  • Uchino, B. N. (2006). Social support and health: a review of physiological processes potentially underlying links to disease outcomes. Journal of Behavioral Medicine, 29(4), 377-387.


Like it? Share with your friends!

0
Piyawan