nature therapy inflammation

“ธรรมชาติบำบัด” การฟื้นฟูเซลล์และลดการอักเสบ

วิทยาศาสตร์เบื้องหลังพลังของธรรมชาติที่ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูร่างกายด้วยวิธีธรรมชาติบำบัดง่ายๆ ที่คุณทำได้ทันที 1 min


0

หลายคนรู้สึกดีขึ้น สดชื่น และผ่อนคลายขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อได้ใช้เวลากับธรรมชาติ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นไม่ใช่แค่ “คิดไปเอง”? มีวิทยาศาสตร์และงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า ธรรมชาติบำบัด (Nature Therapy) สามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายไปจนถึงระดับเซลล์ และเป็นอาวุธสำคัญในการลดการอักเสบซึ่งเป็นต้นตอของโรคร้ายหลายชนิด  The HealthSpan พาไปเจาะลึกว่าการ อาบป่า (Forest Bathing) หรือแม้แต่การเดินในสวนสาธารณะใกล้บ้าน ส่งผลต่อเซลล์และระบบภูมิคุ้มกันของเราอย่างไร… แบบเข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง

การอักเสบเรื้อรัง ภัยเงียบที่ธรรมชาติช่วยได้

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก “ผู้ร้าย” ตัวจริงกันก่อน นั่นคือ การอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation) ลองนึกภาพตามว่าการอักเสบปกติก็เหมือนสัญญาณเตือนไฟไหม้ในร่างกาย เมื่อมีเชื้อโรคหรือบาดแผล ร่างกายจะส่งสัญญาณนี้เพื่อเรียกเม็ดเลือดขาวมาจัดการ พอจัดการเสร็จสัญญาณก็จะดับไป แต่ในภาวะการอักเสบเรื้อรัง สัญญาณเตือนนี้กลับดังอยู่ตลอดเวลาแบบแผ่วๆ เหมือนมีควันกรุ่นๆ อยู่ในร่างกายตลอดปี

ภาวะนี้อันตรายกว่าที่คิด เพราะมันเป็นรากฐานของโรคร้ายแรงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ, เบาหวาน, โรคอ้วน, ภาวะซึมเศร้า ไปจนถึงมะเร็ง การลดการอักเสบจึงเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพดีในระยะยาว และนี่คือจุดที่พลังของธรรมชาติบำบัดเข้ามามีบทบาทอย่างน่าทึ่ง งานวิจัยพบว่าการใช้เวลากับธรรมชาติสามารถช่วย “ปิด” สัญญาณเตือนที่ดังไม่หยุดนี้ได้ ทำให้ร่างกายกลับสู่ภาวะสมดุลและเริ่มต้นกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง

วิทยาศาสตร์ของการอาบป่า (Shinrin-yoku)

คำว่า “อาบป่า” หรือ “ชินรินโยกุ” (Shinrin-yoku) เป็นศาสตร์ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น มันไม่ใช่การเดินป่าแบบออกกำลังกายหนักๆ แต่คือ “การอาบร่างกายด้วยบรรยากาศของป่า” อย่างช้า ๆ คือการเปิดรับธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ฟังเสียงนก สูดกลิ่นดิน มองสีเขียวของใบไม้ สัมผัสเปลือกไม้ ซึ่งวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบกลไกเบื้องหลังที่น่าสนใจว่าทำไมการทำแบบนี้ถึงส่งผลดีต่อสุขภาพของเรา

Phytoncides” สารจากต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน

เคยสงสัยไหมว่าทำไมในป่าถึงมีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะตัว? กลิ่นนั้นมาจากสารที่ชื่อว่า ไฟทอนไซด์ (Phytoncides) ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ต้นไม้ปล่อยออกมาเพื่อป้องกันตัวเองจากแมลงและเชื้อโรค เปรียบเสมือนระบบภูมิคุ้มกันของต้นไม้

เมื่อเราเดินเข้าไปในป่าและสูดอากาศเข้าไป เราก็ได้รับสารไฟทอนไซด์นี้เข้าไปด้วย งานวิจัยของ ดร. ชิง ลี (Dr. Qing Li) จาก Nippon Medical School ในโตเกียว พบว่า การสูดดมสารไฟทอนไซด์เข้าไป สามารถกระตุ้นการทำงานและเพิ่มจำนวนของ เซลล์ NK (Natural Killer Cells) ซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวด่านหน้าที่คอยกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็งในร่างกายได้อย่างมีนัยสำคัญ พูดง่ายๆ ก็คือ การเดินป่าช่วยให้กองทัพทหารในร่างกายของเราแข็งแกร่งและพร้อมรบมากขึ้นนั่นเอง นี่คือกลไกโดยตรงที่ธรรมชาติช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูร่างกายในระดับเซลล์

ธรรมชาติช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล ต้นเหตุความเครียดได้อย่างไร

ในโลกที่วุ่นวาย ร่างกายของเรามักจะอยู่ในโหมด “สู้หรือหนี” (Fight-or-Flight) อยู่เสมอ ทำให้ต่อมหมวกไตผลิต ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือ “ฮอร์โมนความเครียด” ออกมาในปริมาณสูง ซึ่งคอร์ติซอลที่สูงต่อเนื่องนี่เองที่เป็นตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง

การใช้เวลากับธรรมชาติเปรียบเสมือนการกดปุ่ม “รีเซ็ต” ระบบประสาทของเรา สีเขียวของต้นไม้, เสียงน้ำไหล, เสียงลมพัดเบาๆ ช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) หรือโหมด “พักและย่อย” (Rest-and-Digest) ให้ทำงานเด่นขึ้น ผลการศึกษาจำนวนมากยืนยันตรงกันว่า เพียงแค่ใช้เวลาในพื้นที่สีเขียวประมาณ 20-30 นาที ก็สามารถลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในน้ำลายได้อย่างชัดเจน การลดความเครียดด้วยวิธีนี้จึงไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีในร่างกายที่ส่งผลดีโดยตรงต่อการลดการอักเสบ

วิธีฟื้นฟูร่างกายด้วยธรรมชาติที่คุณเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้

คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าป่าลึกเพื่อรับประโยชน์จากธรรมชาติบำบัด คุณสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ใกล้ตัวคุณ

  • กฎ 20 นาทีในสวน ตั้งเป้าหมายใช้เวลาในสวนสาธารณะ, สวนหย่อมใกล้บ้าน หรือพื้นที่สีเขียวใดๆ อย่างน้อย 20 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เดินช้าๆ หรือนั่งเฉยๆ ก็เพียงพอแล้ว
  • ฝึกประสาทสัมผัส ลองฝึก “อาบป่า” ฉบับย่อโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 มองหา 5 สิ่งที่คุณเห็น, ฟัง 4 เสียงที่คุณได้ยิน, สัมผัส 3 อย่างที่รู้สึก, ดม 2 กลิ่นที่ได้กลิ่น และรับรส 1 อย่าง (เช่น จิบน้ำ) วิธีนี้ช่วยให้คุณจดจ่อกับปัจจุบันและลดความเครียดได้ดีมาก
  • นำธรรมชาติเข้ามาในบ้าน หากไม่มีเวลาออกไปข้างนอก การวางต้นไม้ในห้องทำงานหรือห้องนอน, การเปิดฟังเสียงธรรมชาติ (เช่น เสียงฝนตก, เสียงคลื่น), หรือแม้แต่การมองภาพวิวทิวทัศน์ ก็สามารถช่วยลดความดันโลหิตและทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้
  • เดินเท้าเปล่าบนพื้นหญ้า (Earthing) ลองถอดรองเท้าแล้วเดินบนพื้นหญ้าหรือดินสัก 10-15 นาที มีแนวคิดว่าการสัมผัสโดยตรงกับพื้นโลกอาจช่วยปรับสมดุลประจุไฟฟ้าในร่างกายและช่วยลดการอักเสบได้
  • รับแสงแดดยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าไม่เพียงช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดี แต่ยังช่วยปรับนาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ทำให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น ซึ่งการนอนหลับที่มีคุณภาพคือปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการฟื้นฟูเซลล์

ธรรมชาติบำบัดไม่ใช่แค่เทรนด์สุขภาพ แต่เป็นศาสตร์การดูแลตัวเองที่ทรงพลังและมีวิทยาศาสตร์รองรับ การพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเป็นเหมือนการให้ “ยา” ที่ดีที่สุดกับร่างกาย ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน, ลดความเครียด, เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน และที่สำคัญคือช่วยลดการอักเสบเรื้อรังซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคร้ายต่างๆ ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าหรือเครียด ลองพักจากหน้าจอแล้วออกไปเดินเล่นในสวนใกล้บ้านดูสิครับ ร่างกายของคุณจะขอบคุณคุณอย่างแน่นอน

——————–

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • Li, Q. (2010). Effect of forest bathing trips on human immune function. Environmental Health and Preventive Medicine, 15(1), 9–17.
  • Hunter, M. R., Gillespie, B. W., & Chen, S. Y. (2019). Urban Nature Experiences Reduce Stress in the Context of Daily Life Based on Salivary Biomarkers. Frontiers in Psychology, 10, 722.
  • Bratman, G. N., Hamilton, J. P., & Daily, G. C. (2012). The impacts of nature experience on human cognitive function and mental health. Annals of the New York Academy of Sciences, 1249, 118–136.

Like it? Share with your friends!

0
Piyawan