what is biological age test

การตรวจวัดอายุชีวภาพเทรนด์ใหม่การเช็กสุขภาพเชิงลึก

เคยสงสัยไหมทำไมบางคนดูอ่อนกว่าวัย? รู้จัก "อายุชีวภาพ" (Biological Age Test) และการตรวจวัดอายุชีวภาพ เทรนด์ตรวจสุขภาพเชิงลึกที่บอกอายุเซลล์จริง ๆ และวิธีชะลอวัยที่ได้ผลจริง 1 min


0

เชื่อว่าหลายคนเคยสงสัย ทำไมเพื่อนที่เกิดปีเดียวกับเรา บางคนถึงดูอ่อนกว่าวัย สดใส และกระฉับกระเฉงกว่าอย่างเห็นได้ชัด? ในขณะที่บางคนอาจดูมีอายุมากกว่าตัวเลขในบัตรประชาชน คำตอบของปริศนานี้อยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “อายุชีวภาพ” (Biological Age)

นี่คือเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงทั่วโลก และไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป การตรวจอายุชีวภาพ หรือ Biological Age Test กำลังจะกลายเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ ในการดูแลสุขภาพเชิงลึก ที่ช่วยให้เราเข้าใจร่างกายตัวเองในระดับเซลล์ และวางแผน “ชะลอวัย” ได้อย่างตรงจุด The HealthSpan เจาะลึกว่าคืออะไร, สำคัญอย่างไร, และเราจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร

อายุชีวภาพ (Biological Age) คืออะไร? ต่างจากอายุจริง (Chronological Age) อย่างไร?

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ “อายุ” สองแบบนี้กันก่อน

  • อายุจริง (Chronological Age) คือตัวเลขอายุตามปฏิทิน ที่เราคุ้นเคยกันดี เป็นจำนวนปีที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ นับจากวันเกิด ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
  • อายุชีวภาพ (Biological Age) คือ “อายุที่แท้จริง” ของร่างกายในระดับเซลล์ เป็นตัวชี้วัดว่าร่างกายและระบบต่าง ๆ ของเราเสื่อมสภาพไปมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย ของคนสุขภาพดีในวัยเดียวกัน

ยกตัวอย่าง รถยนต์สองคันที่ผลิตในปีเดียวกัน (อายุจริงเท่ากัน) แต่คันหนึ่งถูกใช้งานอย่างหนัก ไม่เคยเข้าศูนย์เช็กระยะ ส่วนอีกคันได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม แน่นอนว่าสภาพเครื่องยนต์และความเสื่อม ของรถสองคันนี้ย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ร่างกายของเราก็เช่นกัน

ดังนั้น คนที่มีอายุชีวภาพน้อยกว่าอายุจริง หมายความว่าเขามีสุขภาพเซลล์ที่ดี ร่างกายเสื่อมช้ากว่าคนวัยเดียวกัน ในทางกลับกัน คนที่มีอายุชีวภาพมากกว่าอายุจริง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ร่างกายกำลังเสื่อมเร็วกว่าที่ควร ซึ่งอาจเกิดจากไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดี เช่น ความเครียดสะสม, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม หรือการขาดการออกกำลังกาย

ทำไมการตรวจอายุชีวภาพ จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

การตรวจสุขภาพประจำปีแบบเดิม ๆ อาจบอกได้ว่าตอนนี้เราป่วย หรือไม่ป่วย แต่การตรวจอายุชีวภาพ จะบอกข้อมูลที่ลึกกว่านั้น คือ “แนวโน้ม” หรือ “ความเสี่ยง” ที่จะเกิดโรคในอนาคต นี่คือเหตุผลที่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของเวชศาสตร์ชะลอวัย และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน

  • เป็นตัวชี้วัดสุขภาพองค์รวมที่แม่นยำ อายุชีวภาพ สะท้อนผลลัพธ์จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นการกิน, การนอน, ความเครียด, หรือการออกกำลังกาย เป็นเสมือน “คะแนนสุขภาพ” ที่จับต้องได้
  • ช่วยให้เราตื่นตัวและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ การได้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่า ร่างกายเราแก่ไปถึงไหนแล้ว เป็นแรงกระตุ้นชั้นดี ที่ทำให้เราหันมาดูแลตัวเอง อย่างจริงจังก่อนที่จะสายเกินไป
  • วางแผนชะลอวัยได้อย่างตรงจุด เมื่อรู้ว่าร่างกายเราเสื่อมจากปัจจัยไหน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์, โภชนาการ หรือการออกกำลังกาย ที่เหมาะสมกับตัวเองโดยเฉพาะ
  • วัดผลความสำเร็จของการดูแลสุขภาพ เราสามารถทำการตรวจซ้ำในอีก 6-12 เดือน เพื่อดูว่าการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ที่ผ่านมา สามารถ “ลดอายุชีวภาพ” ของเราได้จริงหรือไม่ ซึ่งเป็นกำลังใจที่ดีเยี่ยม ในการดูแลสุขภาพระยะยาว

เจาะลึกวิธีตรวจอายุชีวภาพ มีกี่แบบ และแต่ละแบบ บอกอะไรเราได้บ้าง?

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำให้เราสามารถวัดค่าอายุชีวภาพ ได้อย่างแม่นยำ ผ่านการตรวจเลือดหรือตัวอย่างจากน้ำลาย โดยมีวิธีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอยู่ 2-3 วิธี แต่ที่นิยมมากที่สุดคือ 2 วิธีนี้

1. การตรวจจาก DNA Methylation (Epigenetic Clock)

วิธีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “มาตรฐานทองคำ” (Gold Standard) ของ การตรวจอายุชีวภาพ ในปัจจุบัน

ใน DNA ของเราจะมี “สวิตช์” เล็ก ๆ ที่เรียกว่า “เมทิลกรุ๊ป” (Methyl Group) คอยทำหน้าที่เปิด-ปิดการทำงานของยีนต่าง ๆ รูปแบบการเกาะของสวิตช์เหล่านี้ จะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุและไลฟ์สไตล์ของเราอย่างมีแบบแผน นักวิทยาศาสตร์จึงสร้าง “นาฬิกาชีวภาพ” หรือ Epigenetic Clock ขึ้นมา เพื่ออ่านรูปแบบเหล่านี้ และคำนวณออกมาเป็นอายุชีวภาพ ได้อย่างแม่นยำ

วิธีนี้ไม่เพียงแต่บอกอายุชีวภาพโดยรวม แต่ยังสามารถสะท้อนผลกระทบของไลฟ์สไตล์ได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม ในการติดตามผลการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

2. การวัดความยาวเทโลเมียร์ (Telomere Length Test)

ลองนึกถึง “ปลอกพลาสติกที่ปลายเชือกรองเท้า”  เช่นเดียวกัน โครโมโซมในเซลล์ของเราก็มีปลอกหุ้มปลายที่เรียกว่า “เทโลเมียร์” (Telomere) ทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้สารพันธุกรรมเสียหาย ทุกครั้งที่เซลล์แบ่งตัว เทโลเมียร์นี้จะหดสั้นลงเรื่อย ๆ ดังนั้นความยาวของเทโลเมียร์ จึงเป็นตัวบ่งชี้อายุของเซลล์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งเทโลเมียร์สั้น เซลล์ก็ยิ่งแก่และเสื่อมสภาพ

เทโลเมียร์สามารถบอกถึงอัตราการเสื่อมของเซลล์ในภาพรวม เป็นตัวชี้วัดสุขภาพระยะยาวที่สำคัญ และเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของโรค ที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมต่าง ๆ

ตรวจอายุชีวภาพ ราคาเท่าไหร่ และตรวจได้ที่ไหน?

  • ราคาเท่าไหร่? การตรวจอายุชีวภาพ ยังถือเป็นการตรวจเชิงลึก ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ราคาอาจเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจ (DNA Methylation มักมีราคาสูงกว่า), ความละเอียดของผลรายงาน และสถานพยาบาลที่ให้บริการ
  • ตรวจได้ที่ไหน? สามารถเข้ารับการตรวจอายุชีวภาพ ได้ที่โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ที่มีศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging Center) หรือคลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive & Wellness Clinic) โดยเฉพาะ ควรเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและอธิบายผลตรวจอย่างละเอียด

การตรวจอายุชีวภาพ คือการลงทุนกับสุขภาพในระยะยาว เป็นการก้าวเข้าสู่ยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) ที่ช่วยให้เรารู้จักร่างกายตัวเอง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และมอบอำนาจในการออกแบบสุขภาพและชะลอวัย ให้กลับมาอยู่ในมือของเราเองอย่างแท้จริง

——————–

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  •  Horvath, S. (2013). DNA methylation age of human tissues and cell types. Genome Biology, 14(10), R115.
  •  Shammas, M. A. (2011). Telomeres, lifestyle, cancer, and aging. Current opinion in clinical nutrition and metabolic care, 14(1), 28–34.
  •  National Institute on Aging (NIA). (2022). Hallmarks of Aging. https://www.nia.nih.gov/health/dna-and-genetics/hallmarks-aging

Like it? Share with your friends!

0
Piyawan