Gut-Brain Axis สมองที่สอง (ในลำไส้) ที่ควบคุมอารมณ์คุณ

Gut-Brain Axis สมองที่สอง (ในลำไส้) ที่ควบคุมอารมณ์คุณ

Gut-Brain Axis คืออะไร? เจาะลึกความสัมพันธ์สมองกับลำไส้ที่ส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพสมอง เคล็ดลับดูแลลำไส้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น 1 min


0

คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลาเราเครียดถึงรู้สึกปวดท้อง หรือทำไมอาหารบางอย่าง ถึงทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น? ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากความเชื่อมโยงอันน่าทึ่ง ระหว่างลำไส้กับสมองของเรา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า Gut-Brain Axis หรือ แกนสมอง-ลำไส้  The HealthSpan จะพาคุณไปเจาะลึกว่า Gut-Brain Axis คืออะไร และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง จุลินทรีย์ในลำไส้ กับ สุขภาพสมอง และอารมณ์ของเราเกี่ยวข้องกันได้ยังไงบ้าง 

Gut-Brain Axis คืออะไร? “สมองที่สอง” ที่คุณไม่เคยรู้ 

หลายคนคงคุ้นเคยกับสมอง ที่อยู่ในหัวเราดีอยู่แล้ว แต่คุณรู้ไหมว่าเรามี “สมองที่สอง” อยู่ในลำไส้ด้วย? ลำไส้ของเรามีระบบประสาทที่ซับซ้อนเป็นของตัวเอง เรียกว่า ระบบประสาท Enteric (ENS) ซึ่งบางครั้งก็ถูกขนานนามว่าเป็น “สมองที่สอง” เพราะมันสามารถทำงานได้ค่อนข้างอิสระจากสมองหลัก และที่สำคัญคือ มันสื่อสารกับสมองใหญ่ของเราอยู่ตลอดเวลา ผ่านทางเส้นทางต่าง ๆ มากมาย 

Gut-Brain Axis จึงเป็นเหมือน “ทางด่วน” สองทิศทางที่เชื่อมโยงระบบประสาทส่วนกลาง (สมองและไขสันหลัง) กับระบบประสาท Enteric (ในลำไส้) ซึ่งการสื่อสารนี้เกิดขึ้นผ่านช่องทางหลัก ๆ ได้แก่ 

  • เส้นประสาท Vagus เปรียบเสมือนสายโทรศัพท์หลัก ที่เชื่อมต่อสมองกับอวัยวะภายในหลายส่วน รวมถึงลำไส้ด้วย ข้อมูลจากลำไส้จะถูกส่งไปยังสมอง และสมองก็ส่งสัญญาณกลับมายังลำไส้เช่นกัน 
  • สารสื่อประสาท (Neurotransmitters) จุลินทรีย์ในลำไส้ของเรา สามารถผลิตสารสื่อประสาทหลายชนิด เช่น Serotonin, Dopamine, GABA ซึ่งมีผลโดยตรงต่ออารมณ์ ความรู้สึก และการทำงานของสมอง 
  • ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) ลำไส้เป็นที่อยู่ของเซลล์ภูมิคุ้มกันจำนวนมาก เมื่อลำไส้ไม่สมดุล อาจเกิดการอักเสบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสมองได้ 
  • ผลิตภัณฑ์จากการเผาผลาญของจุลินทรีย์ จุลินทรีย์ในลำไส้จะย่อยอาหาร ที่เรากินเข้าไปและสร้างสารต่าง ๆ ออกมา สารเหล่านี้บางชนิด สามารถเดินทางผ่านกระแสเลือด ไปถึงสมองและส่งผลต่อการทำงานของสมองได้ 

ทำไม “สุขภาพลำไส้” ถึงสำคัญต่อ “สุขภาพสมอง” และอารมณ์? 

ความเชื่อมโยงนี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะหมายความว่าการดูแลลำไส้ของเราให้ดี จะส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ ความคิด และแม้กระทั่งความเสี่ยงต่อโรคทางสมอง! 

1. ผลิตสารแห่งความสุข (Serotonin) 

คุณรู้ไหมว่าประมาณ 90% ของ Serotonin หรือ “สารแห่งความสุข” ถูกผลิตในลำไส้ของเรา!  Serotonin มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์ ความอยากอาหาร การนอนหลับ และการรับรู้ความเจ็บปวด เมื่อจุลินทรีย์ในลำไส้ของเรามีความสมดุล พวกมันจะช่วยให้การผลิต Serotonin เป็นไปอย่างราบรื่น ส่งผลให้เราอารมณ์ดี มีความสุข และนอนหลับได้ดีขึ้น ในทางกลับกัน หากลำไส้ไม่สมดุล การผลิต Serotonin ก็อาจบกพร่อง ทำให้เรามีแนวโน้มที่จะรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล หรือมีปัญหาเรื่องการนอนหลับได้ง่ายขึ้น 

2. ลดการอักเสบในร่างกายและสมอง 

ลำไส้ที่มีสุขภาพดี จะมีผนังลำไส้ที่แข็งแรง ป้องกันไม่ให้สารพิษหรือเชื้อโรค เล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือดได้ แต่เมื่อลำไส้มีปัญหา เช่น มีภาวะ “ลำไส้รั่ว” (Leaky Gut) สารอันตรายเหล่านี้ ก็สามารถผ่านเข้าไปในกระแสเลือด และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย รวมถึงในสมองด้วย การอักเสบเรื้อรังในสมอง ถูกเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพจิตหลายอย่าง เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค ทางระบบประสาทอย่างอัลไซเมอร์และพาร์กินสันอีกด้วย 

3. ปกป้องสมองจากความเครียด 

จุลินทรีย์ในลำไส้ ยังผลิตสารที่เรียกว่า GABA (Gamma-aminobutyric acid) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสำคัญที่มีฤทธิ์สงบเงียบ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและลดความกังวลลงได้ นอกจากนี้ จุลินทรีย์บางชนิดยังช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอย่าง Cortisol ซึ่งมีผลดีต่อการจัดการความเครียดในระยะยาว 

4. ส่งเสริมการทำงานของสมอง 

จากการวิจัยพบว่า จุลินทรีย์ในลำไส้สามารถส่งผลต่อการทำงานของสมอง ด้านการเรียนรู้ ความจำ และสมาธิได้ การมีจุลินทรีย์ที่ดีและหลากหลาย จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สำหรับการพัฒนาและการทำงานของเซลล์สมองให้มีประสิทธิภาพ 

เคล็ดลับดูแล “สมองที่สอง” เพื่อสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม 

เมื่อรู้ถึงความสำคัญของ Gut-Brain Axis แล้ว เราจะสามารถดูแลลำไส้ของเราให้แข็งแรง เพื่อส่งเสริมสุขภาพสมองและอารมณ์ได้อย่างไร? 

  • กินอาหาร Probiotics และ Prebiotics 
    • Probiotics คือจุลินทรีย์ดี ๆ ที่มีชีวิต พบได้ในอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต, คีเฟอร์ (Kefir), คอมบูชา (Kombucha), กิมจิ, มิโซะ ช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ดีในลำไส้ 
    • Prebiotics คือใยอาหารที่ไม่ถูกย่อย ในระบบทางเดินอาหารของเรา แต่เป็นอาหารของ Probiotics ช่วยให้จุลินทรีย์ดี ๆ เติบโตได้ดี พบมากในผักผลไม้ เช่น กระเทียม, หัวหอม, หน่อไม้ฝรั่ง, กล้วยดิบ, ธัญพืชไม่ขัดสี 
  • กินอาหารให้หลากหลาย การกินอาหารที่หลากหลาย จะช่วยส่งเสริมให้มีจุลินทรีย์ในลำไส้ ที่หลากหลายและสมดุล เพราะจุลินทรีย์แต่ละชนิดชอบอาหารที่แตกต่างกัน 
  • ลดอาหารแปรรูป น้ำตาลสูง และไขมันทรานส์ อาหารเหล่านี้สามารถทำลายสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ และอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ 
  • จัดการความเครียด ความเครียดเป็นตัวการสำคัญ ที่ส่งผลเสียต่อลำไส้ พยายามหาวิธีผ่อนคลายความเครียด ที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น โยคะ, การทำสมาธิ, การฟังเพลง, การออกกำลังกาย หรือใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ 
  • นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ มีความสำคัญต่อสุขภาพลำไส้และสมอง หากเรานอนไม่พอ อาจส่งผลต่อสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ 
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย ไม่เพียงแต่ดีต่อร่างกายโดยรวม แต่ยังช่วยส่งเสริมความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้ด้วย 

Gut-Brain Axis เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า ร่างกายและจิตใจของเรา เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก การดูแล สุขภาพลำไส้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของระบบย่อยอาหาร แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพสมอง และความสุขทางอารมณ์ของเราอย่างแท้จริง ลองหันมาใส่ใจ “สมองที่สอง” ของคุณให้มากขึ้น แล้วจะพบว่าชีวิตของคุณดีขึ้นได้ในหลายๆ ด้านอย่างไม่น่าเชื่อ! 

——————–

แหล่งข้อมูลอ้างอิง  

  • Carabotti, M., Scirocco, A., Maselli, M. A., & Severi, C. (2015). The gut-brain axis: interactions between enteric microbiota, central and enteric nervous systems. Annals of Gastroenterology: Quarterly Publication of the Hellenic Society of Gastroenterology, 28(2), 203. 
  • Cryan, J. F., & Dinan, T. G. (2012). Mind-altering microorganisms: the impact of the gut microbiota on brain and behaviour. Nature Reviews Neuroscience, 13(10), 701-712. 
  • Collins, S. M., Bercik, P., & Verdu, E. F. (2012). The neurobiology, pathophysiology, and clinical effect of stress-induced changes in gut microbiota. Gastroenterology, 142(6), 1478-1487.e2. 

Like it? Share with your friends!

0
Nora