ไมโทคอนเดรีย คืออะไร

ไมโทคอนเดรีย คืออะไร? รู้จักโรงไฟฟ้าเซลล์ของร่างกาย

ไขความลับ "ไมโทคอนเดรีย" (Mitochondria) โรงไฟฟ้าในเซลล์! ค้นพบสาเหตุที่ทำให้คุณอ่อนเพลีย พร้อม 5 วิธีปลุกพลังไมโทคอนเดรียเพื่อเพิ่มพลังงานและชะลอวัยจากต้นตอ 1 min


0

เคยรู้สึกไหมว่า ทำไมยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ทั้งที่ก็พยายามนอนพักผ่อนแล้ว? หรือทำไมบางคนถึงดูแก่กว่าวัย ผิวพรรณไม่สดใส และสมองไม่ปลอดโปร่งเหมือนเคย? คำตอบของคำถามเหล่านี้ อาจซ่อนอยู่ในโครงสร้างเล็ก ๆ ระดับเซลล์ที่ชื่อว่า ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) หรือที่รู้จักกันในฉายา “โรงไฟฟ้าของเซลล์”

โรงไฟฟ้าจิ๋วเหล่านี้ คือจุดเริ่มต้นของพลังงานทั้งหมดในร่างกาย และเป็นกุญแจสำคัญสู่ความเยาว์วัย The Healthspan พาไปทำความรู้จักกับไมโทคอนเดรียให้มากขึ้น และค้นพบสุดยอดวิธีปลุกพลังให้โรงไฟฟ้าเหล่านี้กลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง เพื่อเพิ่มพลังงาน และชะลอวัย จากต้นตอที่แท้จริง

ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) “โรงไฟฟ้าจิ๋ว” ในเซลล์คืออะไร?

ในทุก ๆ เซลล์ของร่างกายเรา (ยกเว้นเซลล์เม็ดเลือดแดง) จะมี Organelle เล็ก ๆ (โครงสร้างเฉพาะภายในเซลล์ที่มีเยื่อหุ้มและทำหน้าที่เฉพาะอย่าง คล้ายกับอวัยวะในร่างกาย)  ที่ชื่อว่า ไมโทคอนเดรีย อยู่เป็นจำนวนมาก บางเซลล์ที่ต้องการพลังงานสูงอย่างเซลล์สมอง หัวใจ และกล้ามเนื้อ อาจมีไมโทคอนเดรียได้ถึงหลายพันตัวต่อเซลล์

หน้าที่หลักของไมโทคอนเดรีย คือการนำสารอาหารที่เรากินเข้าไป (เช่น กลูโคสและไขมัน) มาเปลี่ยนเป็นพลังงาน ในรูปแบบที่เซลล์สามารถนำไปใช้ได้ทันที เรียกว่า ATP (Adenosine Triphosphate) ทุกกิจกรรมในชีวิตตั้งแต่การหายใจ การคิด การเดิน ไปจนถึงการเต้นของหัวใจ ล้วนต้องอาศัยพลังงาน ATP จากไมโทคอนเดรียทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้าไมโทคอนเดรียแข็งแรง ร่างกายเราก็จะมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ถ้าอ่อนแอลง พลังงานของเรา ก็จะลดฮวบลงเช่นกัน

ทำไมไมโทคอนเดรียถึงเสื่อม? สัญญาณเตือนว่าพลังงานคุณกำลังถดถอย

เปรียบเสมือนโรงไฟฟ้าที่ใช้งานมานานหลายสิบปี ประสิทธิภาพย่อมลดลง ผลิตไฟได้น้อยลง และปล่อยควันพิษออกมามากขึ้น ไมโทคอนเดรีย ก็เช่นกัน เมื่อเสื่อมสภาพลง จะเกิดปัญหา 2 อย่างคือ

  • ผลิตพลังงาน (ATP) ได้น้อยลง ทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง สมองล้า
  • ปล่อย “ของเสีย” หรืออนุมูลอิสระ (Free Radicals) ออกมามากขึ้น ซึ่งจะย้อนกลับมาทำลายเซลล์และ DNA ทำให้เกิดความเสื่อมและเร่งกระบวนการชราภาพ

สาเหตุที่ทำให้ ไมโทคอนเดรีย เสื่อมสภาพมาจาก 2 ปัจจัยหลัก

ปัจจัยจากอายุและอนุมูลอิสระ

เป็นเรื่องปกติที่เมื่ออายุมากขึ้น จำนวนและคุณภาพของไมโทคอนเดรีย จะลดลงตามธรรมชาติ นอกจากนี้ กระบวนการผลิตพลังงานเอง ก็สร้างอนุมูลอิสระ เป็นผลพลอยได้อยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไป ความเสียหายจากการสะสมของอนุมูลอิสระ จะทำให้ไมโทคอนเดรียทำงานผิดเพี้ยนมากขึ้น

ปัจจัยจากไลฟ์สไตล์ (อาหาร, ความเครียด, การนอน)

  • อาหาร การกินน้ำตาลและอาหารแปรรูปในปริมาณมาก ทำให้ไมโทคอนเดรีย ต้องทำงานหนักเกินไป เพื่อจัดการกับพลังงานส่วนเกิน และเกิดอนุมูลอิสระมหาศาล
  • ความเครียดเรื้อรัง ฮอร์โมนคอร์ติซอลจากความเครียด ส่งผลเสียโดยตรง ต่อการทำงานของไมโทคอนเดรีย
  • การนอนหลับไม่เพียงพอ การนอนคือ ช่วงเวลาที่เซลล์ซ่อมแซมตัวเองและกำจัดไมโทคอนเดรียที่เสียหายออกไป การอดนอนจึงเท่ากับขัดขวางกระบวนการนี้
  • สารพิษ มลภาวะ โลหะหนัก และสารเคมีต่าง ๆ สามารถเข้าไปทำลายไมโทคอนเดรียได้โดยตรง

“Mitochondrial Dysfunction” ภาวะไมโทคอนเดรียเสื่อม จุดเริ่มต้นของความแก่และโรคภัย

ในวงการวิทยาศาสตร์การชะลอวัย ภาวะที่ไมโทคอนเดรียทำงานผิดปกติ หรือ “Mitochondrial Dysfunction” ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน Hallmarks of Aging หรือสัญญาณบ่งชี้ความชราภาพที่สำคัญที่สุด เพราะไม่ได้ทำให้เราแค่แก่เร็วขึ้น แต่ยังเป็นรากฐานของโรคเรื้อรังต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคความเสื่อมทางระบบประสาท อย่างอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน

5 สุดยอดวิธี ปลุกพลังไมโทคอนเดรีย เพิ่มพลังงานและคืนความเยาว์วัย

สามารถฟื้นฟูและกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างไมโทคอนเดรียใหม่ ๆ ที่แข็งแรงขึ้นได้ (กระบวนการนี้เรียกว่า Mitochondrial Biogenesis) ด้วยวิธีเหล่านี้

1. ออกกำลังกายแบบ HIIT วิธีที่ทรงพลังที่สุด

High-Intensity Interval Training (HIIT) หรือการออกกำลังกายหนักสลับเบา (เช่น วิ่งเร็วสุดฝีเท้า 30 วินาที สลับกับเดิน 1 นาที ทำซ้ำหลายๆ รอบ) ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการส่งสัญญาณให้ร่างกาย สร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม! เพราะทำให้เซลล์รู้สึกว่าต้องการพลังงานอย่างเร่งด่วน

2. กินอาหารที่ไมโทคอนเดรียรัก

ไมโทคอนเดรียต้องการสารอาหารจำเพาะ เพื่อทำงานและปกป้องตัวเองจากความเสียหาย นั่นคือ

  • ไขมันดี อะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, ถั่วต่าง ๆ, ปลาที่มีโอเมก้า 3
  • สารต้านอนุมูลอิสระ ผักผลไม้หลากสี (บลูเบอร์รี, ผักใบเขียวเข้ม, บรอกโคลี)
  • สารอาหารสำคัญ มองหาอาหารที่อุดมไปด้วย Coenzyme Q10 (พบในเครื่องในสัตว์, ปลาซาร์ดีน), L-carnitine (เนื้อแดง), Magnesium (ดาร์กช็อกโกแลต, เมล็ดฟักทอง) และ วิตามินบี

3. ลองใช้ความเย็นบำบัด (Cold Therapy)

การทำให้ร่างกายสัมผัสกับความเย็น ในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น การอาบน้ำเย็น หรือการแช่น้ำแข็ง จะกระตุ้นให้ร่างกายต้องผลิตความร้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการบังคับให้ไมโทคอนเดรียทำงานหนัก และสร้างตัวเองเพิ่มขึ้นเพื่อผลิตพลังงานความร้อน

4. ทำ Intermittent Fasting (IF)

การเว้นช่วงการกิน หรือ IF เป็นการพักให้กับไมโทคอนเดรีย จากการทำงานหนักตลอดเวลา และยังกระตุ้นกระบวนการ Mitophagy ซึ่งเป็นการที่เซลล์กำจัดไมโทคอนเดรียเก่า ที่เสื่อมสภาพทิ้งไป เพื่อเปิดทางให้ไมโทคอนเดรียใหม่ที่แข็งแรงกว่าได้ทำงาน

5. นอนหลับให้มีคุณภาพ

อย่าดูถูกพลังของการนอน! การนอนหลับลึกอย่างเพียงพอ (7-9 ชั่วโมง) เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวด ต่อการซ่อมแซมและฟื้นฟูไมโทคอนเดรีย ทำให้โรงไฟฟ้าพร้อมสำหรับวันใหม่

การดูแลสุขภาพของ ไมโทคอนเดรีย ก็เหมือนกับการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าของเมือง หากโรงไฟฟ้าแข็งแรง เมืองก็จะมีแสงสว่างและพลังงานเหลือเฟือ ในทำนองเดียวกัน หาก Mitochondria ของคุณแข็งแรง ร่างกายและสมองก็จะเปี่ยมไปด้วยพลังงาน มีชีวิตชีวา และดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้อย่างแท้จริง

——————–

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • Spinelli, J. B., & Haigis, M. C. (2018). The multifaceted contributions of mitochondria to cellular metabolism. Nature Cell Biology, 20(7), 745–754.
  • López-Otín, C., et al. (2013). The Hallmarks of Aging. Cell, 153(6), 1194–1217.

Like it? Share with your friends!

0
Piyawan