สุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำไส้ รู้จักพลังของไมโครไบโอม

สุขภาพดีเริ่มต้นที่ลำไส้ รู้จักพลังของไมโครไบโอม

สุขภาพองค์รวมของคุณเริ่มต้นที่ลำไส้ ทำความรู้จักไมโครไบโอมและโปรไบโอติกส์ กุญแจสำคัญที่ช่วยปรับสมดุลร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 1 min


0

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงดูมีพลังงานล้นเหลือ อารมณ์ดีตลอดเวลา แถมยังไม่ค่อยเจ็บป่วยง่ายๆ ทั้งที่ใช้ชีวิตคล้าย ๆ กัน? คำตอบอาจจะอยู่ในอวัยวะเล็ก ๆ ที่เรามักมองข้าม นั่นก็คือ “ลำไส้” ของเรานั่นเอง! 

The HealthSpan ชวนค้นหาความลับของ ไมโครไบโอม ในลำไส้ ของคุณ และทำความเข้าใจว่า โปรไบโอติก มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพลำไส้ และสุขภาพโดยรวมได้อย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ ประโยชน์โปรไบโอติก และวิธีดูแลจุลินทรีย์ในลำไส้ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

มาดูกันว่าทำไมลำไส้ถึงสำคัญ และเราจะดูแลให้แข็งแรงได้อย่างไร เพื่อสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่เรื่องของระบบขับถ่ายอีกต่อไป! 

ไมโครไบโอมในลำไส้คืออะไร? 

ลำไส้ของเราเปรียบเสมือนสวนสัตว์ขนาดจิ๋ว ที่มีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ นับล้านล้านตัวอาศัยอยู่ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้รวมกันเรียกว่า “ไมโครไบโอมในลำไส้” (Gut Microbiome) ซึ่งประกอบด้วยแบคทีเรีย ยีสต์ ไวรัส และเชื้อราต่าง ๆ มากมายหลายร้อยชนิด  ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น “จุลินทรีย์ดี” ที่ทำงานร่วมกับร่างกายของเราอย่างเป็นประโยชน์ 

ประโยชน์ของจุลินทรีย์ในลำไส้ 

ย่อยอาหารที่เราย่อยเองไม่ได้ โดยเฉพาะใยอาหาร หรือไฟเบอร์ ที่ร่างกายคนเราไม่สามารถย่อยได้เอง จุลินทรีย์จะช่วยเปลี่ยนใยอาหารเหล่านี้ ให้เป็นกรดไขมันสายสั้น (Short-Chain Fatty Acids – SCFAs) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับเซลล์ลำไส้ และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ  

สร้างวิตามิน เช่น วิตามิน K และวิตามิน B บางชนิด 

  • ฝึกภูมิคุ้มกันของเรา สอนให้ระบบภูมิคุ้มกัน รู้จักแยกแยะมิตรกับศัตรู ทำให้ร่างกายแข็งแรงและไม่ป่วยง่าย 
  • ต่อสู้กับจุลินทรีย์ก่อโรค แบคทีเรียดี ๆ จะช่วยกันสร้างเกราะป้องกัน และแข่งขันกับแบคทีเรียไม่ดี ไม่ให้พวกมันเจริญเติบโตจนก่อให้เกิดโรค 
  • มีอิทธิพลต่ออารมณ์และสมอง ฟังดูแปลกใช่ไหม? แต่ลำไส้ของเราเชื่อมโยงกับสมองอย่างใกล้ชิด ผ่านเส้นประสาทเวกัส (Vagus Nerve) และยังผลิตสารสื่อประสาทหลายชนิด เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข 

เมื่อไมโครไบโอมในลำไส้ของเรามีความสมดุล นั่นหมายถึง มีจุลินทรีย์ดีมากกว่าจุลินทรีย์ร้าย ร่างกายของเราก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ความสมดุลนี้เสียไป ไม่ว่าจะเป็นเพราะการกินยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ ความเครียด การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมายตามมาได้ 

โปรไบโอติก จุลินทรีย์ดีเพื่อสุขภาพที่ดี 

เมื่อพูดถึงสุขภาพลำไส้ สิ่งที่เรามักจะได้ยินบ่อย ๆ คือคำว่า “โปรไบโอติก” (Probiotics) สิ่งนี้คืออะไรกัน? 

โปรไบโอติก คือจุลินทรีย์มีชีวิต “ดี” ที่เมื่อได้รับในปริมาณที่เหมาะสม จะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลำไส้ เป็นเหมือน “กองกำลังเสริม” ที่เราส่งเข้าไปช่วยเสริมทัพจุลินทรีย์ดี ที่มีอยู่เดิมในลำไส้ เพื่อให้ระบบนิเวศลำไส้ ของเรากลับมาสมดุลและแข็งแรงอีกครั้ง 

โปรไบโอติกทำงานอย่างไร? 

หน้าที่หลัก ๆ ของโปรไบโอติก คือการช่วยฟื้นฟูและรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายในหลายด้าน 

  • ปรับสมดุลแบคทีเรีย พวกมันจะไปเพิ่มจำนวนแบคทีเรียดี และช่วยลดจำนวนแบคทีเรียไม่ดี ที่อาจก่อให้เกิดปัญหา เช่น ท้องเสีย ท้องผูก หรืออาการปวดท้อง 
  • เสริมสร้างเยื่อบุลำไส้ โปรไบโอติกบางชนิด สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเยื่อบุลำไส้ ทำให้ลำไส้เป็นเกราะป้องกันที่ดีขึ้น ไม่ให้สารก่อภูมิแพ้หรือสารพิษ เล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย 
  • สนับสนุนภูมิคุ้มกัน เนื่องจากลำไส้เป็นศูนย์รวมของเซลล์ภูมิคุ้มกันกว่า 70-80% ของร่างกาย โปรไบโอติก จึงมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นและปรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ให้ตอบสนองอย่างเหมาะสม 
  • ช่วยในการย่อยและดูดซึมสารอาหาร โปรไบโอติกบางชนิด จะช่วยผลิตเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น 

ประโยชน์ของโปรไบโอติกต่อสุขภาพลำไส้และร่างกายโดยรวม 

การมีสุขภาพลำไส้ที่ดี ด้วยจุลินทรีย์ในลำไส้ ที่สมดุลและเพียงพอ มีประโยชน์จากโปรไบโอติก มากมายที่ส่งผลต่อสุขภาพในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เรื่องของลำไส้เท่านั้น 

  • ระบบขับถ่ายดีขึ้น ใครมีปัญหาท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน โปรไบโอติก สามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการเหล่านี้ได้
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อลำไส้แข็งแรง ภูมิคุ้มกันของเราก็แข็งแรงตามไปด้วย ทำให้เราไม่ป่วยง่าย และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อต่าง ๆ
  • สุขภาพสมองและอารมณ์ที่ดี อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า สุขภาพลำไส้ มีส่วนสำคัญในการผลิตสารสื่อประสาทและส่งสัญญาณไปยังสมอง การมีจุลินทรีย์ในลำไส้ที่สมดุล จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้นได้
  • ควบคุมน้ำหนัก ไมโครไบโอมในลำไส้ที่แข็งแรง อาจมีบทบาทในการเผาผลาญอาหารและควบคุมความอยากอาหาร ซึ่งอาจช่วยในการจัดการน้ำหนักได้
  • ลดการอักเสบในร่างกาย โปรไบโอติก สามารถช่วยลดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่าง ๆ มากมาย
  • สุขภาพผิวที่ดีขึ้น การอักเสบในลำไส้ที่ลดลง อาจส่งผลดีต่อสุขภาพผิว เช่น ลดอาการของสิวหรือโรคผิวหนังบางชนิด 

อาหารโปรไบโอติกและอาหารเสริม 

เมื่อรู้ถึงประโยชน์โปรไบโอติกแล้ว หลายคนคงอยากรู้ว่าจะหาเจ้าจุลินทรีย์ดีเหล่านี้ได้จากที่ไหนบ้าง? 

1. อาหารโปรไบโอติก (Probiotic Foods) 

วิธีที่ดีที่สุดในการได้รับโปรไบโอติก คือการรับประทานอาหารหมักดอง ที่มีจุลินทรีย์ดีเหล่านี้อยู่แล้วในธรรมชาติ ซึ่งรวมถึง 

  • โยเกิร์ต เลือกชนิดที่ไม่เติมน้ำตาลมากเกินไป และระบุว่ามี “เชื้อจุลินทรีย์มีชีวิต” (Live and Active Cultures) 
  • นมเปรี้ยว เช่นเดียวกับโยเกิร์ต ควรเลือกชนิดที่น้ำตาลน้อย 
  • กะหล่ำปลีดอง (Sauerkraut) ผักดองแบบธรรมชาติ ไม่ใช่แบบปรุงแต่งด้วยน้ำส้มสายชู 
  • กิมจิ ผักดองสไตล์เกาหลีที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติก 
  • คอมบูชา (Kombucha) ชาหมักที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ 
  • เทมเป้ (Tempeh) ถั่วเหลืองหมักที่นิยมในอาหารมังสวิรัติ 
  • มิโซะ (Miso) ถั่วเหลืองหมักที่ใช้ทำซุปมิโซะ 

2. อาหารเสริมโปรไบโอติก (Probiotic Supplements) 

ในบางกรณี การรับประทานอาหารอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปัญหาสุขภาพลำไส้ ที่เฉพาะเจาะจง หรือหลังการใช้ยาปฏิชีวนะ การเลือกอาหารเสริม โปรไบโอติก ที่มีคุณภาพสูงและมีสายพันธุ์จุลินทรีย์ที่หลากหลายอาจเป็นทางเลือกที่ดี 

  • วิธีเลือก ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ (เช่น Lactobacillus สำหรับอาการท้องเสีย หรือ Bifidobacterium สำหรับท้องผูก) และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีจำนวนเชื้อต่อหน่วยบริโภค (CFU) ที่เพียงพอ ซึ่งมักระบุเป็นพันล้านตัวขึ้นไป 
  • การเก็บรักษา โปรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์มีชีวิต การเก็บรักษาจึงสำคัญมาก บางยี่ห้ออาจต้องเก็บในตู้เย็นเพื่อรักษาประสิทธิภาพ 

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลสุขภาพลำไส้ 

  • กินอาหารหลากหลาย เพื่อให้จุลินทรีย์ในลำไส้ ได้รับสารอาหารหลากหลายและเติบโตได้ดี 
  • กินไฟเบอร์ให้พอ ไฟเบอร์เป็นอาหารของจุลินทรีย์ในลำไส้ (พรีไบโอติก) พบได้ในผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี 
  • ลดน้ำตาลและอาหารแปรรูป อาหารเหล่านี้อาจส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ไม่ดี 
  • จัดการความเครียด ความเครียดส่งผลเสียต่อ สุขภาพลำไส้ โดยตรง ลองฝึกโยคะ ทำสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย 
  • นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับที่ดีช่วยให้ร่างกายรวมถึงลำไส้ได้ฟื้นตัว 
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น: เพราะยาปฏิชีวนะจะทำลายทั้งจุลินทรีย์ดีและร้าย 

สุขภาพลำไส้ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการขับถ่าย แต่เป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพโดยรวมทั้งหมด ตั้งแต่ระบบภูมิคุ้มกัน อารมณ์ ไปจนถึงการควบคุมน้ำหนัก การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ไมโครไบโอมในลำไส้ และบทบาทของ โปรไบโอติก จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการดูแลตัวเองให้แข็งแรง 

การรับประทานอาหารที่หลากหลาย มีไฟเบอร์เพียงพอ ควบคู่ไปกับการบริโภคอาหารที่อุดมด้วย โปรไบโอติก หรือเสริมด้วยอาหารเสริมที่เหมาะสม จะช่วยให้จุลินทรีย์ในลำไส้ของเรามีความสมดุล และนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีความสุขมากยิ่งขึ้น อย่าลืมว่า “สุขภาพที่ดี เริ่มต้นที่ลำไส้” ของคุณเอง! 

——————–

แหล่งข้อมูลอ้างอิง 

  • Journal of Clinical Gastroenterology. (2010). Probiotics in Gastrointestinal Disorders. 
  • Immunity. (2011). Gut microbiota in immunity and disease. 
  • Biological Psychiatry. (2017). Microbiota-Gut-Brain Axis: A New Target for Psychosomatic Medicine. 
  • Nature. (2013). Gut microbiota drives the development of obesity in humans. 
  • Gut. (2015). Probiotics and gut microbiota in inflammatory bowel diseases: a systematic review.

Like it? Share with your friends!

0
Nora