โรคอัลไซเมอร์ที่เรากลัวกันนักหนา ถูกกำหนดไว้ใน DNA ของเราแล้วหรือยัง? คำถามนี้มักจะวนเวียนมาพร้อมกับชื่อของ “ยีน APOE4” ซึ่งหลายคนขนานนามให้ว่าเป็น “ยีนอัลไซเมอร์” แต่การมียีนนี้หมายความว่าเราจะต้องเป็นอัลไซเมอร์จริงหรือ? หรือเป็นเพียงแค่สัญญาณเตือน ให้เราหันมาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง?
The HealthSpan จะพาไปทำความรู้จักกับพันธุกรรมแบบเข้าใจง่าย และยีน APOE4 คืออะไร เพิ่มความเสี่ยงอัลไซเมอร์จริงหรือไม่ ที่สำคัญที่สุดคือ กลยุทธ์การวางแผนสุขภาพสมอง ที่เราทุกคนสามารถทำได้ เพื่อสร้างเกราะป้องกันโรคสมองเสื่อม แม้ว่าในร่างกายคุณจะมียีนนี้อยู่ก็ตาม
ยีน APOE4 คืออะไร? ทำไมถึงถูกเรียกว่า “ยีนอัลไซเมอร์”
ต้องเข้าใจก่อนว่า ยีน APOE (Apolipoprotein E) ไม่ใช่ผู้ร้ายโดยกำเนิด หน้าที่หลักของมันคือสร้างโปรตีนที่จำเป็น ต่อการเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอลในร่างกาย เปรียบเสมือนรถบรรทุก ที่คอยขนส่งไขมันไปทั่วร่างกาย รวมถึงสมองด้วย
แต่ยีน APOE นี้มีหลายเวอร์ชัน หรือที่เรียกว่า อัลลีล (Allele) ซึ่งเวอร์ชันที่น่ากังวลที่สุดคือ APOE4 งานวิจัยพบว่ายีนเวอร์ชันนี้ ทำงานได้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนัก ในการกำจัดโปรตีน “เบต้า-แอมีลอยด์” (Beta-amyloid) ซึ่งเป็นของเสีย ที่หากสะสมในสมองมากเกินไป จะกลายเป็น คราบพลัค (Plaque) ที่เป็นสาเหตุสำคัญของ โรคอัลไซเมอร์ ด้วยเหตุนี้ APOE4 จึงกลายเป็นยีน ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงอัลไซเมอร์มากที่สุด
รู้จักพี่น้องยีน APOE2 และ APOE3
ในร่างกายของเราแต่ละคน จะได้รับยีน APOE มา 2 ชุด (หนึ่งจากพ่อ หนึ่งจากแม่) ซึ่งอาจเป็นเวอร์ชันเดียวกันหรือต่างกันก็ได้ นอกจาก APOE4 แล้ว ยังมีอีก 2 เวอร์ชันหลัก ๆ คือ
- APOE2 ถือเป็น ยีนดี เพราะเป็นเวอร์ชันที่พบว่า อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ได้ แต่ก็พบได้ไม่บ่อยนัก
- APOE3 เป็นเวอร์ชันที่พบได้บ่อยที่สุด ในประชากรทั่วไป ถือว่าเป็นกลาง ๆ คือไม่เพิ่มและไม่ลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์
ดังนั้น จีโนไทป์ (Genotype) ของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไป เช่น APOE3/E3 (พบมากสุด), APOE3/E4 (มีความเสี่ยง), หรือ APOE4/E4 (มีความเสี่ยงสูง)
การมียีน APOE4 เพิ่มความเสี่ยงอัลไซเมอร์มากแค่ไหน?
- หากมียีน APOE4 1 ชุด (เช่น E3/E4) ความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 เท่า เมื่อเทียบกับคนทั่วไป
- หากมียีน APOE4 2 ชุด (E4/E4) ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 10-15 เท่า
ตัวเลขอาจดูน่ากลัว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้เลยคือ ความเสี่ยงที่สูงขึ้น ไม่ได้แปลว่าคุณจะเป็นโรคอัลไซเมอร์แน่นอน 100% มีคนจำนวนมากที่มียีน APOE4 แต่ก็ไม่ได้เป็นโรคอัลไซเมอร์ไปจนตลอดชีวิต ในทางกลับกัน ผู้ป่วยอัลไซเมอร์จำนวนไม่น้อย ก็ไม่ได้มียีน APOE4 เลย
ดังนั้น ยีน APOE4 จึงเป็นเพียง “ปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรม” ที่สำคัญตัวหนึ่งเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากที่เราสามารถควบคุมได้
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ต้องรู้ นอกเหนือจากพันธุกรรม
สมองของเราไม่ได้เสื่อมลง เพราะยีนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลพวงจากพฤติกรรม การใช้ชีวิตที่สะสมมานานหลายสิบปี นี่คือปัจจัยเสี่ยงสำคัญอื่น ๆ ที่เราต้องใส่ใจ
- โรคประจำตัว – โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง
โรคเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรง ต่อหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เมื่อหลอดเลือดเสียหาย การส่งออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์สมองก็ลดลง เพิ่มความเสี่ยงให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีความเชื่อมโยงกับอัลไซเมอร์อย่างชัดเจน
- ไลฟ์สไตล์ – การสูบบุหรี่, ขาดการออกกำลังกาย, การนอนหลับไม่มีคุณภาพ
การสูบบุหรี่ ทำลายเซลล์สมองโดยตรง การไม่ออกกำลังกาย ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองไม่ดีพอ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การนอนหลับ เพราะช่วงเวลาที่เราหลับ คือช่วงที่สมองทำความสะอาดตัวเอง และกำจัดโปรตีนของเสีย (รวมถึงเบต้า-แอมีลอยด์) ออกไป การนอนไม่พอ จึงเท่ากับปล่อยให้ขยะสะสมในสมอง
- อาหารการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
อาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันแปรรูป และอาหารสำเร็จรูป เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งการอักเสบเรื้อรังนี้เป็นหนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของสมอง
กลยุทธ์วางแผนสุขภาพสมองสำหรับผู้มีความเสี่ยง
ข่าวดีก็คือไลฟ์สไตล์ที่ดีสามารถ “หักล้าง” ความเสี่ยงทางพันธุกรรมได้ นี่คือแผนปฏิบัติการเพื่อสุขภาพสมองที่ดีที่คุณเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้
- อาหารบำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์ – เน้น อาหารเมดิเตอร์เรเนียน, โอเมก้า 3
เน้นการกินผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว และใช้น้ำมันมะกอกเป็นหลัก กินปลาทะเลน้ำลึก (เช่น แซลมอน, ซาร์ดีน) ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันดีโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบและเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง
- การออกกำลังกาย – ทั้งแอโรบิกและเวทเทรนนิ่ง
ออกกำลังกายแบบแอโรบิก (เดินเร็ว, วิ่ง, ปั่นจักรยาน) 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง และเสริมด้วยเวทเทรนนิ่ง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- การนอนหลับ – หัวใจของการฟื้นฟูสมอง
ให้ความสำคัญกับการนอนหลับที่มีคุณภาพ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน จัดห้องนอนให้มืดสนิท เงียบ และเย็นสบาย เพื่อให้สมองได้ทำความสะอาดตัวเองอย่างเต็มที่
- ฝึกสมองและเข้าสังคม – ลดความเสี่ยงสมองเสื่อม
ท้าทายสมองด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เช่น เรียนภาษาใหม่ เล่นดนตรี เล่นเกมปริศนา และอย่าละเลยการเข้าสังคม การพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เป็นการกระตุ้นสมองที่ดีเยี่ยม
ใครควรพิจารณาตรวจยีน APOE4?
การตรวจยีน APOE4 เป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล และเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวสายตรงเป็นโรคอัลไซเมอร์ โดยเฉพาะหากเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยังน้อย
- ผู้ที่ต้องการวางแผนสุขภาพเชิงรุก และอยากรู้ความเสี่ยงของตัวเอง เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจตรวจ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์ เพื่อทำความเข้าใจผลที่จะได้รับและวางแผนรับมืออย่างเหมาะสม
ยีน APOE4 เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคอัลไซเมอร์ แต่ไม่ใช่คำตัดสินชี้ขาดว่า คุณจะต้องป่วยด้วยโรคนี้เสมอไป พันธุกรรมเป็นเพียงแค่ “ไพ่” ที่เราได้รับมา แต่ “ไลฟ์สไตล์” คือวิธีที่เราจะเลือกเล่นไพ่ในมือนั้น การรู้จักความเสี่ยงของตัวเองผ่านการตรวจยีน อาจเป็นก้าวแรกที่ทรงพลัง ในการกระตุ้นให้เราหันมาดูแลสุขภาพสมองอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่สดใสและห่างไกลจากโรคสมองเสื่อม
——————–
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- National Institute on Aging (NIA). (2021). Alzheimer’s Disease Genetics Fact Sheet.
- Alzheimer’s Association. (2022). Risk Factors for Alzheimer’s Disease.
